ไปที่เว็บ_พระไตรปิฏกฉบับอ่าน..

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรผลไม้ชนิดต่างๆ 06


เอนไซม์น้ำหมักชีวภาพจากผลไม้รวม ดร.รสสุคนธ์ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และความงาม

บทความสุขภาพ ความสวย ความงาม เครื่องสำอาง น้ำเอนไซม์ น้ำหมักชีวภาพ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงค์ บ้านรักษ์สุขภาพ
เอนไซม์ น้ำหมักชีวภาพเพื่อชีวิต
ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์  เรียบเรียงโดย ปุญโญ มีบรรจง

สำหรับการทำน้ำหมักชีวภาพ หรือเอนไซม์เพื่อการบริโภคนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล น้ำสมอดอง ถือเป็นน้ำอมตะ และยาอายุวัฒนะแห่งการรักษาชีวิต หากจะแปลความจากการวิเคราะห์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ น้ำหมักชีวภาพ หรือเอนไซม์ ก็คือ น้ำบูดมูตรเน่า เถ้าดอง ที่มีอยู่ในพระไตรปิฏก ถ้าในปัจจุบัน ก็จะเป็นน้ำหมักจากผลไม้ หรือ น้ำส้มหมัก หรือ น้ำส้มไซเดอร์ ก็ได้

สารอินทรีย์ที่ได้จากการหมักนั้นได้ทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์แก่มวลมนุษยชาติมานานนับพันปี


ซึ่งตลอดเวลาของการค้นคว้าคณะสงฆ์เครือข่ายภาคอีสาน และชมรมบ้านสุขภาพ ได้ร่วมศึกษาและค้นคว้าพืชผักผลไม้ สมุนไพรต่างๆ นานาชนิดที่มีอยู่ในประเทศไทย

พบว่า การนำ "ผัก ผลไม้มาหมักตามทฤษฎีการแตกตัวของอนุมูลสารอาหาร เพื่อให้เกิดการซึมของน้ำหมัก จะได้สารอาหารซึ่งอยู่ในรูปของสารละลาย ที่ครบทั้ง 5 หมู่ " เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการในสภาวะฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ

จากขบวนการหมัก สารอาหารที่ออกมานั้นอยู่ในรูปของ กรดอะมิโน จากโปรตีน พลังงานจากแป้ง วิตามินและแร่ธาตุจากผักผลไม้ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสารอาหารที่ร่างกาย ต้องการในระดับต่างๆ กัน

ในน้ำหมักชีวภาพก็จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่หลากหลาย เช่น จุลินทรีย์ กรดอะมิโน กรดอินทรีย์ น้ำตาล วิตามิน ฮอร์โมน เอนไซม์ ฯลฯ

ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ล้วนได้มาจากกระบวนการหมักซึ่งเป็นขั้นตอนหลักของการได้มาซึ่งน้ำหมักชีวภาพ สารสำคัญที่เกิดขึ้นนี้บางตัวก็จัดได้ว่าเป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อการบริโภคกล่าวคือ เมื่อกินเข้าไปแล้วเป็นผลดีต่อร่างกาย เช่น จุลินทรีย์แลคติก (ที่มีในนมเปรี้ยว โยเกิรต์) กรดอะมิโน กรดแลคติก และสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

เอนไซม์ คือ โปรตีนที่คัดหลั่งมาจากเซลล์ที่มีฤทธิ์กระตุ้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสารอื่น ๆ โดยตัวมันเองไม่เปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกง่าย ๆ เป็นตัวช่วยในการย่อย หรือเร่งปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกาย นั่งเอง

ชื่อเอนไซม์ ถูกเสนอโดยนักสรีรวิทยาชาวเยอรมันในปี 1867 มาจากกลุ่มคำศัพท์ “Enzyme” เป็นคำเรียกสารที่มีโปรตีนและวิตามินอยู่ร่วมกัน และทำหน้าที่เป็นตัวเร่งการย่อย กระนั้นเอนไซม์ยัง
จำแนกได้อีก 700 กว่าชนิด

การหมักน้ำเอนไซม์ มีกระบวนการทางเคมีทางทฤษฏีของการเปลี่ยนแป้งและน้ำตาล จากผลไม้เป็นกรดน้ำส้ม สูตรทางเคมีคือ CH3COOH เมื่อละลายน้ำแล้วน้ำส้มสายชูก็จะสลายตัวเป็นโอโซน

ซึ่ง O3 ก็คือ โอโซน มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค และทำให้อากาศมีปริมาณออกซิเจนเพิ่มขึ้น ช่วยลดมลพิษของบรรยากาศ**** (ซึ่งจะกล่าวไว้ในหนังสือจุดประกายฝัน)

ดังนั้น เอนไซม์ คือ สารที่เกิดจากขบวนการแตกตัวสารอาหารด้วยขบวนการ IONIC DISCHARGE ซึ่งเป็นการได้รับสารอาหารในรูปของอิออนบวกและลบ ทำให้เกิดการสลายอนุมูลอิสระในร่างกาย ให้เกิดเป็นอนุมูลธาตุ ซึ่งช่วยทำให้เซลล์และระบบเคมีในร่างกายเกิดสภาวะสมดุลจนเกิดอาการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและเสื่อมไปได้อย่างรวดเร็ว

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของชมรมบ้านสุขภาพ



18 กันยายน 2554


ประโยชน์ของหอมใหญ่ ในน้ำผักปั่น

หัวหอม หรือ หอมใหญ่ เป็นผัก ที่มีสารอาหารสูง เช่น
  • วิตามิน B1 สูง
  • วิตามิน B2 สูง ที่ช่วยบรรเทาความอ่อนเปลี้ยเพลียแรงของกล้ามเนื้อ เสริมสร้างสุขภาพ และความงามของผิวพรรณ เล็บ และผม 
  • เพิ่มการเผาผลาญอาหารประเภทไขมัน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และกระตุ้นการสร้างเซลล์ในร่างกาย (ไม่ต้องสงสัยทำไมทานน้ำผักปั่นแล้วน้ำหนักลดจริง)
  • ช่วยทำให้ดวงตาสดใส (ฟื้นฟูเซลล์ประสาทตา)
  • เสริมสร้างเซลล์ และระบบประสาทให้แข็งแรง
  • วิตามิน C สูง
คุณประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการทานหอมใหญ่

  1. ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
  2. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยไร้ริ้วรอย
  3. ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่กระเพาะอาหาร
  4. ช่วยยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด
  5. ช่วยลดความดันโลหิต ส่งผลดีต่อผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
  6. ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน
  7. ช่วยขับเสมหะ ขับปัสสาวะ
  8. ช่วยเผาผลาญอาหาร เหมาะใช้ลดความอ้วน
  9. ป้องกันการเกิดโรคหวัด
  10. บรรเทาอาการตะคริว เหน็บชาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  11. ทำให้จิตใจแจ่มใส่ไม่เครียด ไม่วิตกกังวล
  12. ช่วยบำรุงความงาม ผิวพรรณ ผม ขน เล็บ กระดูก
  13. ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศ รักษาสมรรถภาพทางเพศดี และไม่แก่ก่อนวัย
  14. ทำให้นอนหลับสบาย หลับสนิทนานขึ้น
  15. บรรเทาปัญหาผิวพรรณได้ เช่น สิว ฝ้า จุดด่างดำ
  16. บรรเทาอาการคลื่นเหียนอาเจียน
เห็นไหมค่ะ ประโยชน์มากมาย ดังนั้น หันมาดื่มน้ำผักปั่น เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีวันนี้ คงเองก็ทำได้ค่ะ


อาหารฟื้นฟู และอาหารต้องห้ามของชมรมบ้านสุขภาพ

จากการเก็บข้อมูลของผู้เข้ารับการบำบัด ณ ชมรมบ้านสุขภาพนั้น ทำให้เราพบว่า

โรคที่คุกคามคนไทยเป็นจำนวนมาก ก็คือ โรคที่เกี่ยวข้องกับ 
" ไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง" 

ทำให้มีคำถามต่าง ๆ มากมายที่มักจะถามเสมอว่า ในเมื่อขบวนการบำบัดในแนวทางธรรมชาติบำบัดนั้นงดใช้ยา และนำอาหารมาใช้ทดแทน อาหารชนิดใดที่จะทานได้ และอาหารชนิดใดที่เป็นของต้องห้าม

ดังนั้นทางชมรมบ้านสุขภาพจึงได้รวบรวมอาหารต้องห้าม และ อาหารฟื้นฟูสุขภาพสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง ดังนี้

อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง
  • ของดอง 
  • ชะเอม 
  • ชะพลู 
  • ใบยอ 
  • ชุงฉ่าย 
  • ผักโขม 
  • สะเดา 
  • ไชเท้า 
  • ขี้เหล็ก ใบขี้เหล็ก ใบขี้เหล็กหวาน 
  • ใบมะม่วงหิมพานต์ 
  • สะตอ 
  • ลูกเนียง 
  • กระถิน 
  • ชะอม 
  • หน่อไม้ 
  • คะน้า 
  • แตงกวา 
  • กระหล่ำปลี 
  • กระหล่ำดอก 
  • หัวปลี 
  • ใบกุยช่าย 
  • บล็อคโคลี่ 
  • มะละกอดิบ 
  • ฟักทอง 
  • งาดำ (ร้อนทำให้ท้องอืด) 
  • ข้าวโพด (มีไขมันมาก มีไขมันที่ย่อยไม่หมด ทำให้เลือดข้น) 
  • ถั่วลิสง 
  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 
  • แครอท 
  • อัลมอนด์ 
  • ถั่วเน่า 
  • เต้าเจี้ยว 
  • ซีอิ๊ว เกลือ กะปิ 
  • สาหร่ายทะเล 
  • กะทิ 
  • เผือก (มีแก๊สมาก) 
  • ลูกกะ 
  • อาหารทะเลทุกชนิด 
  • น้ำตาลกรวด 
  • มะม่วง 
  • ฝรั่ง (ทำให้ปวด) 
  • มะพร้าวอ่อน 
  • ทุเรียน 
  • ละมุด 
  • ลำไย 
  • ขนุน 
  • แตงโม 
  • นมข้น 
  • สัปปะรด 
  • คอฟฟี่เมท 
  • แป้งสาคู 
  • แป้งเปียก 
  • ข้าวเหนียว 
  • น้ำตาลทราย 
  • ขนมจีน 
  • อาหารขัดผิว 
  • ก๋วยเตี๋ยว
  • แกงป่า แกงส้ม แกงอ่อม 
  • มันสำปะหลังและใบ (มีไซยานิคแอซิด) 
  • ผักกระโดน 
  • กุ้งแห้ง 
  • ส้มตำ 
  • ทอฟฟี่ 
  • ไอศกรีม เนย ชีส 
  • ขนมเค็ก คุกกี้ 
  • เนื้อหมู 
  • เนื้อวัว เป็ด ไก่ กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก 
  • เครื่องในทุกชนิด 
  • อาหารกระป๋อง น้ำอัดลม ชา กาแฟ 
  • เครื่องดื่มชูกำลัง แบรนด์ รังนก
อาหารต้องห้ามเหล่านี้ หากร่างกายไม่แข็งแรง การขับของเสียหรือสารบ้างอย่างออกจากร่างกายได้ไหม่สมบุรณ์จะทำให้เกิดการสะสม และสารอาหารบ้างอย่างในอาหารต้องห้ามเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงก่อให้เกิดกระบวนการไปขัดขวางการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพ

อาหารฟื้นฟู ไต ตับ ลำไส้ มะเร็ง 
  • ลูกเกด (โรคมะเร็งงด) 
  • ขนมปังโฮลวีท (งดผงฟู) 
  • ผักบุ้ง มะระ (กินสดใช้น้ำส้มสายชูหรือ เอนไซม์ล้าง) 
  • บวบ ( สามอย่างนึ่งโรยด้วยพริกไทย) 
  • ลูกเดือยข้าวเจ้า (ดูดซึมเร็ว) 
  • ผักหวาน ผักกาดขาว ผักกาดเขียว
  • ตำลึง กวางตุ้ง ฟักเขียว หน่อไม้ฝรั่ง 
  • ใบมะขามอ่อน ดอกมะขามอ่อน 
  • กระเทียม หอมใหญ่ 
  • เต้าหู้ขาว 
  • ต้นกระเทียม 
  • ยอดฟักทอง ดอกไม้จีน 
  • โปรตีนเกษตร 
  • วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้ 
  • ดอกแค ยอดแค เห็ดทุกชนิด 
  • เห็ดหูหนูขาว-ดำ 
  • อ่อมแซบ 
  • ยอดมะยม 
  • ใบทองหลาง 
  • มะตูมสุก 
  • มะขวิด มันเทศ 
  • เก๋ากี้ เก็กฮวย 
  • ยอดผักบุ้ง + กระเจี๊ยบเขียว (ใช้ย่าง แก้โรคพยาธิ) 
  • ลูกพลับสด (ให้พลังงาน) 
  • พุทราจีน เม็ดบัว 
  • ถั่วดำ เมล็ดทานตะวัน 
  • ใบกระทกรก (ทำซุปผักได้ดี ดีสำหรับคนเป็นหวัด) 
  • ถั่วพร้า (สร้างภูมิคุ้มกัน) 
  • มะเขือพะวง ระกำ 
  • อี่หร่ำ – อีชึก (ลวก) 
  • ผักพาย (กินสด) 
  • เกาลัด ( สารดูดซึมน้ำตาลมีไขมันน้อย) 
  • รากบัว มันแกว กล้วยต้ม 
  • มังคุด 
  • แอปเปิ้ล ( ให้พลังงานสูงมาก) 
  • เม็ดฝักบัวสด ( 1 เม็ด = ข้าว 1 กำมือ) 
  • ผักโสม ใบหมุ่ย 
  • องุ่น ( ขับปัสสาวะป้องกันนิ่วในไต) 
  • น้ำองุ่นสดปั่น (จะทำความสะอาดตับ-ไต กินประมาณ 2 อาทิตย์) 
  • ใบบัวบกอินเดีย มะแว้งต้น 
  • ผักคาวตอง (มีแคลเซียมมาก โรคโลหิตจางควรกิน) 
  • ใบมันปู
อาหารฟื้นฟูที่แนะนำนี้ สำหรับบ้างโรคจะเป็นอาหารต้องห้ามได้ ดังนั้น ควรอ่าน และศึกษาได้ดีก่อนนำไปปฏิบัติ...

24 ตุลาคม 2554


อาหารฟื้นฟู และอาหารต้องห้ามของชมรมบ้านสุขภาพ

จากการเก็บข้อมูลของผู้เข้ารับการบำบัด ณ ชมรมบ้านสุขภาพนั้น ทำให้เราพบว่า

โรคที่คุกคามคนไทยเป็นจำนวนมาก ก็คือ โรคที่เกี่ยวข้องกับ 
" ไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง" 

ทำให้มีคำถามต่าง ๆ มากมายที่มักจะถามเสมอว่า ในเมื่อขบวนการบำบัดในแนวทางธรรมชาติบำบัดนั้นงดใช้ยา และนำอาหารมาใช้ทดแทน อาหารชนิดใดที่จะทานได้ และอาหารชนิดใดที่เป็นของต้องห้าม

ดังนั้นทางชมรมบ้านสุขภาพจึงได้รวบรวมอาหารต้องห้าม และ อาหารฟื้นฟูสุขภาพสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง ดังนี้

อาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ตับ ลำไส้ และมะเร็ง
  • ของดอง 
  • ชะเอม 
  • ชะพลู 
  • ใบยอ 
  • ชุงฉ่าย 
  • ผักโขม 
  • สะเดา 
  • ไชเท้า 
  • ขี้เหล็ก ใบขี้เหล็ก ใบขี้เหล็กหวาน 
  • ใบมะม่วงหิมพานต์ 
  • สะตอ 
  • ลูกเนียง 
  • กระถิน 
  • ชะอม 
  • หน่อไม้ 
  • คะน้า 
  • แตงกวา 
  • กระหล่ำปลี 
  • กระหล่ำดอก 
  • หัวปลี 
  • ใบกุยช่าย 
  • บล็อคโคลี่ 
  • มะละกอดิบ 
  • ฟักทอง 
  • งาดำ (ร้อนทำให้ท้องอืด) 
  • ข้าวโพด (มีไขมันมาก มีไขมันที่ย่อยไม่หมด ทำให้เลือดข้น) 
  • ถั่วลิสง 
  • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 
  • แครอท 
  • อัลมอนด์ 
  • ถั่วเน่า 
  • เต้าเจี้ยว 
  • ซีอิ๊ว เกลือ กะปิ 
  • สาหร่ายทะเล 
  • กะทิ 
  • เผือก (มีแก๊สมาก) 
  • ลูกกะ 
  • อาหารทะเลทุกชนิด 
  • น้ำตาลกรวด 
  • มะม่วง 
  • ฝรั่ง (ทำให้ปวด) 
  • มะพร้าวอ่อน 
  • ทุเรียน 
  • ละมุด 
  • ลำไย 
  • ขนุน 
  • แตงโม 
  • นมข้น 
  • สัปปะรด 
  • คอฟฟี่เมท 
  • แป้งสาคู 
  • แป้งเปียก 
  • ข้าวเหนียว 
  • น้ำตาลทราย 
  • ขนมจีน 
  • อาหารขัดผิว 
  • ก๋วยเตี๋ยว
  • แกงป่า แกงส้ม แกงอ่อม 
  • มันสำปะหลังและใบ (มีไซยานิคแอซิด) 
  • ผักกระโดน 
  • กุ้งแห้ง 
  • ส้มตำ 
  • ทอฟฟี่ 
  • ไอศกรีม เนย ชีส 
  • ขนมเค็ก คุกกี้ 
  • เนื้อหมู 
  • เนื้อวัว เป็ด ไก่ กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก 
  • เครื่องในทุกชนิด 
  • อาหารกระป๋อง น้ำอัดลม ชา กาแฟ 
  • เครื่องดื่มชูกำลัง แบรนด์ รังนก
อาหารต้องห้ามเหล่านี้ หากร่างกายไม่แข็งแรง การขับของเสียหรือสารบ้างอย่างออกจากร่างกายได้ไหม่สมบุรณ์จะทำให้เกิดการสะสม และสารอาหารบ้างอย่างในอาหารต้องห้ามเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงก่อให้เกิดกระบวนการไปขัดขวางการฟื้นฟูและรักษาสุขภาพ

อาหารฟื้นฟู ไต ตับ ลำไส้ มะเร็ง 
  • ลูกเกด (โรคมะเร็งงด) 
  • ขนมปังโฮลวีท (งดผงฟู) 
  • ผักบุ้ง มะระ (กินสดใช้น้ำส้มสายชูหรือ เอนไซม์ล้าง) 
  • บวบ ( สามอย่างนึ่งโรยด้วยพริกไทย) 
  • ลูกเดือยข้าวเจ้า (ดูดซึมเร็ว) 
  • ผักหวาน ผักกาดขาว ผักกาดเขียว
  • ตำลึง กวางตุ้ง ฟักเขียว หน่อไม้ฝรั่ง 
  • ใบมะขามอ่อน ดอกมะขามอ่อน 
  • กระเทียม หอมใหญ่ 
  • เต้าหู้ขาว 
  • ต้นกระเทียม 
  • ยอดฟักทอง ดอกไม้จีน 
  • โปรตีนเกษตร 
  • วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้ 
  • ดอกแค ยอดแค เห็ดทุกชนิด 
  • เห็ดหูหนูขาว-ดำ 
  • อ่อมแซบ 
  • ยอดมะยม 
  • ใบทองหลาง 
  • มะตูมสุก 
  • มะขวิด มันเทศ 
  • เก๋ากี้ เก็กฮวย 
  • ยอดผักบุ้ง + กระเจี๊ยบเขียว (ใช้ย่าง แก้โรคพยาธิ) 
  • ลูกพลับสด (ให้พลังงาน) 
  • พุทราจีน เม็ดบัว 
  • ถั่วดำ เมล็ดทานตะวัน 
  • ใบกระทกรก (ทำซุปผักได้ดี ดีสำหรับคนเป็นหวัด) 
  • ถั่วพร้า (สร้างภูมิคุ้มกัน) 
  • มะเขือพะวง ระกำ 
  • อี่หร่ำ – อีชึก (ลวก) 
  • ผักพาย (กินสด) 
  • เกาลัด ( สารดูดซึมน้ำตาลมีไขมันน้อย) 
  • รากบัว มันแกว กล้วยต้ม 
  • มังคุด 
  • แอปเปิ้ล ( ให้พลังงานสูงมาก) 
  • เม็ดฝักบัวสด ( 1 เม็ด = ข้าว 1 กำมือ) 
  • ผักโสม ใบหมุ่ย 
  • องุ่น ( ขับปัสสาวะป้องกันนิ่วในไต) 
  • น้ำองุ่นสดปั่น (จะทำความสะอาดตับ-ไต กินประมาณ 2 อาทิตย์) 
  • ใบบัวบกอินเดีย มะแว้งต้น 
  • ผักคาวตอง (มีแคลเซียมมาก โรคโลหิตจางควรกิน) 
  • ใบมันปู
อาหารฟื้นฟูที่แนะนำนี้ สำหรับบ้างโรคจะเป็นอาหารต้องห้ามได้ ดังนั้น ควรอ่าน และศึกษาได้ดีก่อนนำไปปฏิบัติ...

บทบัญยัติ 10 ประการ เพื่อสุขภาพ

บทปฏิบัติ 10 ประการ เพื่อสุขภาพ ของชมรมบ้านสุขภาพ
  • ตื่นนอน 04.00 น. เข้าห้องน้ำ
  • ดื่มน้ำผสมเอนไซม์ ทันทีที่ตื่นนอน 500 ซีซี และทุก ๆ ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำโหระพา 250 ซีซี ก่อนอาหารทุกมื้อ
  • ดื่มน้ำข้าวผง/น้ำข้าวกล้อง 250 ซีซี 3 มื้อ
  • ออกกำลังกายตอนเช้า 5.30 - 6.00 น.
  • กินอาหารไร้สารพิษเช้า 7.00 น. กลางวัน 11.30 น. และเย็น 17.30 น.
  • ทยอยดื่มน้ำผักปั่นทันทีที่ปั่นเสร็จ ครั้งละ 1 ลิตร 3 ครั้งต่อวัน
  • ทำสมาธิ และเข้านอนไม่เกิน 21.00 น.
  • ถ่ายอุจจาระตอนเช้าไม่เกิน 6.30 น.
  • อยู่ในที่อากาศสะอาด
หมายเหตุ
ผัก ผลไม้ พวกมียางห้ามนำไปปั่นเด็ดขาด เพราะยางจะเปลี่ยนรูปเป็นยางมะตอย เช่น ผักบุ้ง ใบบัวบก ว่านหางจระเข้ แก้วมังกร อโวคาโด เนื้อฝรั่ง ไม่ดีต่อไต และแครอทไม่เหมาะกับคนไทยเพราะมีแคลเซียมไบคาบอเนทที่ย่อยยาก

หรือถ้าจะให้ง่าย ๆ จริง ๆ ไม่ยุ่งยาก ได้ทั้งเอนไซม์จากผลไม้นานาชนิด และสารอาหารต่าง ๆ ในโมเลกุลที่เล็กมากสามารถดูดซึมไปใช้ได้ในทันที คุณก็สามารถหาซื้อดื่มได้ง่าย ๆ คือ เครื่องดื่มพลังเอนไซม์บำบัด
-----------------------------------------------
บ้านคนรักสุนทราภรณ์