ไปที่เว็บ_พระไตรปิฏกฉบับอ่าน..

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรผลไม้ชนิดต่างๆ 10



-

ระบบภูมิคุ้มกันคือ อะไรระบบภูมิคุ้มกัน คือ กุญแจดอกสำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพ โดยจะช่วยในการปกป้องเราจากโรคทุกชนิด ตั้งแต่โรคหวัดจนถึงโรคมะเร็ง นอกจากนั้น ยังสามารถช่วยต่อสู้กับของเสีย และชะบอความชรา ดังนั้น หากเราใช้ชีวิตโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพอันเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหาร การอยู่ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่บั่นทอนระบบภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอลง และสิ่งที่ตามมาคือ ทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยต่างได้ง่ายขึ้น

หากจะพูดง่าย ๆ ระบบภูมิคุ้มกันก็เหมือนกับ ทหารที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอม หรือจะเปรียบเหมือน คนกำจัดขยะ ในร่างกายการเราก็ได้อีกเหมือนกัน ดังนั้น หากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายก็ย่อมเกิดโรคภัยต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เป็นโรคโน้นโรคนี่ ป่วยบ่อยๆ ร่างกายอ่อนแอนั้นเอง


ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างไร
ระบบภูมิคุ้มกัน ทำหน้าที่เสมือนกองทัพที่ช่วยปกป้องเราจากศัตรูที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกายหรือเซลล์เรา ส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบน้ำเหลือง และระบบเลือด โดยจะทำหน้าที่ทำลายแบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอม รวมถึงการกำจัดเนื่อเยื่อหรือเซลล์ที่ตายแล้วออกไปจากร่างกาย ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันจะทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์เมื่อร่างกายมีความสมดุลของความเป็นกรดด่างในร่างกาย หรือความสมดุลของแบคทีเรียที่ดีและแบคทีเรียก่อโรค ซึ่งแบคทีเรียทั้งสองชนิดจะอยู่กันอย่างสมดุลในลำไส้ ทำให้การย่อยและการดูดซึมอาหารสมบูรณ์ แต่หากแบคทีเรียทั้งสองไม่สมดุลกันจะก่อให้เกิดปัญหาในการย่อย และเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น



ศัตรูของระบบภูมิคุ้มกัน
เซลล์ของระบบภูมิคุ้มกันนั้นต้องการสารอาหารบางประเภทเพื่อช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สารอินเตอร์เฟียรอน ที่เป็นสารต้านไวรัสและมะเร็งที่ถูกขับออกมาโดยเนื้อเยื่อเมื่อร่างกายได้รับวิตามินซีที่เพียงพอ

ความเครียด การสูบบุหรี หรือการขาดการออกกำลังกาย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนก่อให้เกิดความอ่อนแอของระบบภูมิคุ้มกันทั้งสิ้น



ภูมิคุ้มกันต่ำเป็นอย่างไร
ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ หรือด้อยประสิทฺธิภาพจะส่งสัญญาณให้เห็นได้ง่าย ๆ เช่น การที่คนเราป่วยเป็นหวัดบ่อย หรือมีระบบย่อยอาหารผิดปกติ มีอาการปวดเมื่อย ผิวหมองคล้ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น



ผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน
  1. น้ำผักปั่นพลังเอนไซม์
  2. น้ำพลังเอนไซม์บำบัด
  3. น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น
  4. น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตร N-2000
  5. น้ำนมธัญพืช
  6. น้ำข้าวกล้องผสมธัญพืช
  7. ต้นข้าวสาลีอ่อน Whe Globerry
อาหารบำรุงเม็ดเลือดขาว
    1. ดอกขี้เหล็ก
    2. คะน้า
    3. ผักหวาน
    4. บล็อกโคลี
    5. มะม่วงดิบ
    6. ผักโขม
    7. ชะอม
    8. ผักชี
    9. ดอกกะหล่ำ
    10. มะขามอ่อน
    11. ดอกแค
    12. ผักขึ้นฉ่าย
    วิตามินที่เสริมความแข็งแรงให้กับเม็ดเลือดขาว คือ
    1. วิตามิน A
    2. วิตามิน C
    3. วิตามิน D
    4. วิตามิน E
    5. ธาตุเซเลเนียม
    6. ธาตุแมกนีเซียม
    7. ธาตุสังกะสี
    8. ธาตุทองแดง
    9. ธาตุเหล็ก
    ...................................................................................................................................................................

    การย่อยสลายเซลล์มะเร็ง

    โครงสร้างการย่อยสลายเซลล์มะเร็งร้ายให้ฝ่อหายไป


    โดย ดร. สิทธิพร เปล่งขำ นักวิจัยแห่งชาติ นักวิทยาศาสตร์แพทย์แบบผสมผสาน


    ปัจจัยที่ 1 หยุดยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง โดยการตัดสารอาหารที่ก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกาย
    เช่น การอดอาหารเพื่อล้างเซลล์มะเร็ง หรือ การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยการ detox เช่น การดื่มน้ำเอนไซม์, การออกกำลังกายขับสารพิษ, การทำสมาธิลดความเครียด, การคิดดี อารมณ์ดีอยู่เสมอ


    ปัจจัยที่ 2 สารภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
    เช่น บำรุงเม็เลือดขาวด้วยอาหาร และวิตามินจากธรรมชาติ, บำรุงตับ และไต เพื่อให้ทำงานขับสารพิษได้ดี, ชำระล้างเลือดหรือสารอาหารที่ตกค้างในเลือดด้วยน้ำเอนไซม์จากผลไม้หรือผักสด, สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง และมีปริมาณที่เหมาะสมด้วยพลังจากสารอาหารธรรมชาติ


    ปัจจัยที่ 3 การย่อยสลายเซลล์มะเร็ง
    ด้วยการใช้โภชนาการบำบัด เช่น การกินสาหร่ายเกลียวทอง การทานวิตามินซีในปริมาณ 5,000 มก.ต่อวัน, การรับออกซิเจนด้วยการใช้ลมปราณบำบัดโรค, การทำสมาธิสลายความเครียด เป็นต้น


    ปัจจัยที่ 4 การสร้างอารมณ์ขัน
    เช่น มองโลกในแง่ดี, มีความหวัง, ความตั้งใจจริง, อดทน, ไม่เครียด, ลดความวิตกกังวน, เจริญสมาธิ แผ่เมตตา, พูดคุยกับผู้คนด้วยอัธยาศัยไมตรี


    ปัจจัยที่ 5 สร้างบรรยากาศแวดล้อมที่ดี
    เช่น การทำความสะอาดบ้านให้ปราศจากฝุ่น, ดื่มน้ำสะอาดทุกวันอย่างน้อย 3 - 5 ลิตร, อาบน้ำอุ่น หรือ อบไอน้ำเป็นประจำ, ทานอาหารปลอดสารพิษ, ชำระร่างกายให้สะอาด, ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด, สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ


    อาหารต้านมะเร็ง ที่ง่ายที่สุดของชมรมบ้านสุขภาพ คือ น้ำผักสดปั่นสูตรชมรมบ้านสุขภาพ และเครื่องดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัดที่ได้จากกาารหมักผลไม้นานกว่า 6 ปี ขึ้นไป อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน ช่วยกระตุ้นต่อมและฮอร์โมนต่าง ๆ ทำให้ร่างกายต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรง ภูมิต้านทานดี มีประโยชน์ในการรักษามะเร็งได้
    .................................................................................................................................................................

    หลักการหมักน้ำเอนไซม์ทำกินเองที่บ้าน โดยชมรมบ้านสุขภาพ

    การหมักน้ำเอนไซม์ทำกินที่บ้านได้เอง 
    อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม


    1. ถังหมัก (มีฝาปิดสนิท) ที่ล้างทำความสะอาด หรือฆ่าเชื้อแล้ว (ลวกน้ำร้อน)
    2. น้ำผึ้งความชื้นต่ำ (20 - 25 % ความชื้น)
    3. ผลไม้ (รสเปรี้ยว หรือรสหวาน ตามชอบ)
    4. น้ำต้มสุก ที่ทิ้งไว้ให้เย็นแล้ว
    5. มีด เขียง 1 ชุด สำหรับหั่นผลไม้
    6. ไม้ หรือหินที่สะอาดสำหรับดันให้ผลไม้จมน้ำ
    7. สายยางสะอาดความยาวพอประมาณ สำหรับดูดเอาน้ำเอนไซม์ออกมาใช้
    8. เอนไซม์ล้างแช่ผัก ผลไม้ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำสะอาด 1 อ่างล้างจาน


    ***คืนก่อนการทำการหมัก ต้องเตรียมล้างทำความสะอาดผลไม้ที่ต้องการหมัก แล้วแช่ทิ้งไว้ในน้ำผสมเอนไซม์แช่ผัก 1 คืน ****


    วิธีการทำ


    1. หั่นผลไม้ที่แช่ล้างในน้ำเอนไซม์แช่ผักให้เป็นชิ้นพอดี ไม่ต้องปอกเปลือก
    2. ผสมน้ำผึ้งกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 กับ 10 ส่วน คนให้น้ำผึ้งละลายจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เทเข้าใส่ในภาชนะที่เตรียมสำหรับหมักไว้
    3. ใส่ผลไม้ที่เตรียมไว้ในอัตราส่วน 1 ส่วน โดยพยายามให้ผลไม้จมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด (หากผลไม้ลอยขึ้นมาให้หาไม้ขัดให้จมอยู่ใต้น้ำ) โดยเว้นเนื้อให้มีอากาศเล็กน้อย (1 ใน 5 ส่วน)
     4. ปิดฝาให้สนิท แล้วหมักในห้องที่มีอากาศถ่ายเท แต่ห้ามมีแสงแดดส่อง เป็นเวลา 3 เดือน โดยทุก ๆ อาทิตย์ ควรมาตรวจดู หรือหมั่นเปิดจุกคลายอากาศออกและปิดกลับให้สนิทเหมือนเดิม


    ***เมื่อได้เวลา 3 เดือน เกิด น้ำใส (ionic plasma) ลอยตัวให้ดูดออกด้วยสายยาง นำมาขยายต่อเป็นหัวเชื้อได้อีก 14 ครั้ง ทุก ๆ 3 เดือน ในอัตราส่วน น้ำใส 1 : น้ำผึ้ง 1 : น้ำ 10 ***
    ตัวกากที่ก้นขวดหมักต่อในอัตราส่วนเดิม
    ( กาก 3 : น้ำผึ้ง 1: น้ำ 10 ) ทุก 3 เดือน ดึงเอา น้ำใสออก (ทำได้ 3 ครั้ง)


    เมื่อครบ 3 ครั้งแล้วกากที่เป็นผงตะกอนใช้ ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะคลุกผลไม้ 10 กิโลกรัม ใส่น้ำ 10 ลิตร หมักจนกว่าจะได้น้ำใส แล้วเอามาต่ออีกเหมือนตอนต้นไปเรื่อย ๆ ฯลฯ
    เพียงวิธีง่าย ๆ คุณก็สามารถมีเครื่องดื่มสุขภาพ ในการใช้ดื่มเพื่อดูแลสุขภาพกันแบบง่าย ๆ ได้แล้วค่ะ
     บ้านคนรักสุนทราภรณ์