ไปที่เว็บ_พระไตรปิฏกฉบับอ่าน..

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ตระกูลเศรษฐี เมืองไทย 2012


เงิน
ฟอร์บส์ จัดอันดับ 40 เศรษฐีไทย เฉลียว รวยสุด 1.3 แสนล้าน ทักษิณ อันดับ 16 รวยเพิ่ม 3 พันล้าน
         นิตยสาร "ฟอร์บส์" ของสหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่การจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 40 อันดับ โดยอาศัยข้อมูลจากตลาดหลักทัพย์และกระทรวงพาณิชย์ และการประเมินมูลค่าของทรัพย์สินว่า จะมีมูลค่าเท่าใด หากนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในกรณีบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทเอกชนที่ยังไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ใช้ราคาหลักทรัพย์และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2551 เป็นข้อมูลประเมินทรัพย์สินครั้งนี้
         ฟอร์บส์ ระบุภาพรวมว่า มูลค่าของทรัพย์สินของบุคคลที่ร่ำรวยมากที่สุดของไทย 40 อันดับเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 6,000 ล้านดอลลาร์เป็นรวมทั้งสิ้น 25,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 825,000 ล้านบาท ที่อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์) และตั้งข้อสังเกตุด้วยว่า กลุ่มมหาเศรษฐีทั้ง 40 คน ยังคงเป็นกลุ่มเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุอาจเป็นเพราะความมั่งคั่งที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ นอกจากนั้น ใน 10 อันดับแรกสุด ประกอบไปด้วยนักธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และธุรกิจด้านสื่อมากถึง 6 คน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในอันดับ 16 ทรัพย์สินรวม 400 ล้านดอลลาร์

โดย ฟอร์บส์ ระบุว่า 40 อันดับเศรษฐีไทย มีดังนี้

เฉลียว อยู่วิทยา

          อันดับ 1 นายเฉลียว อยู่วิทยา อายุ 76 ปี กลับมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของไทยอีกครั้งหนึ่งหลังจากยอดจำหน่ายกระทิงแดง เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่นายเฉลียว ร่วมกับนายดีทริช มาเตสชิทซ์ นักธุรกิจออสเตรียเริ่มผลิตขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ยอดขายเพิ่มจากปี 2547-2550 ถึงเกือบเท่าตัวเป็น 4,200 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 136,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 500 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 2 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของธุรกิจวิสกี้และเบียร์ (เหล้าแม่โขง , เบียร์ช้าง ฯลฯ ) ที่เพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อปี 2549 ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ และไอเอ็มเอ็ม อีกด้วย มูลค่าทรัพย์สินรวม 3,900 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 3 ตระกูล "จิราธิวัฒน์" มีกิจการหลายอย่างตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก (ห้างเซ็นทรัล),อสังหาริมทรัพย์ ,โรงแรม เป็นต้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 2,800 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 4 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กิจการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี.) อายุ 69 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,000 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 5 นายกฤตย์ รัตนรักษ์ ประธานและซีอีโอของบริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) และครอบครัว ทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซิเมนต์นครหลวง มูลค่าทรัพย์สินรวม 1,000 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 6 คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล และครอบครัว เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มูลค่าทรัพย์สินรวม 940 ล้านดอลลาร์ 

          อับดับ 7 นายวิชัย มาลีนนท์ และครอบครัว เจ้าของกิจการ บีอีซีเวิร์ลด์ และไทยทีวีสีช่อง 3 มูลค่าทรัพย์สินรวม 880 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 8 นายจำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ (เบียร์สิงห์) และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินรวม 820 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 9 ดร.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเครือบริษัท ไทยซัมมิต ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ถือหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ในเนชั่น มัลติมีเดียมูลค่าทรัพย์สินรวม 580 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 10 นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 525 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 11 นายสรรเสริญ จุรางกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท สามมิตมอเตอร์ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 520 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 12 นายประยุทธ มหากิจศิริ และครอบครัว เจ้าของกิจการเหล็กกล้า ไทยน็อกซ์ สแตนเลส มูลค่าทรัพย์สินรวม 515 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 13 นายบุญชัย เบญจรงคกุล และครอบครัว ผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคม ดีแทค มูลค่าทรัพย์สินรวม 475 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 14 นายอิสระ วงกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทมิตรผลและครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินรวม 470 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 15 วิลเลียมอี. ไฮเนคกี้ และครอบครัว เจ้าของกิจการ ไมเนอร์ คอร์ป., ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ทำธุรกิจ อาทิ เอสปรี และธุรกิจภัตตาคาร,สปา,โรงแรม มากกว่า 800 แห่งในหลายประเทศ
ทักษิณ ชินวัตร


          อันดับ 16 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทรัพย์สินรวม 400 ล้านดอลลาร์  ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย  แม้ว่าจะถูกอายัดทรัพย์ และหมดยุคเรืองอำนาจ เพราะถูกกระทำรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 แต่ตัวเลขทางการเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3,300 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน 

          อันดับ 17 นายวาณิช ไชยวรรณ และครอบครัว เจ้าของกิจการไทยประกันชีวิต มูลค่าทรัพย์สินรวม 390 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 18 นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ เจ้าของกิจการพฤกษาเรียลเอสเตท มูลค่าทรัพย์สินรวม 380 ล้านดอลลาร์ 

นิชิต้า ชาห์


          อันดับ 19 น.ส.นิชิต้า ชาห์ อายุน้อยที่สุดคือ 28 ปี สาวโสด เพียงรายเดียวจากทั้งหมด สืบทอดกิจการ พรีเชียส ชิปปิ้งจากบิดา ก่อนขยายออกไปสู่วงการแฟชั่นและเสื้อผ้าสำเร็จรูป มูลค่าทรัพย์สินรวม 375 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 20 นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการบีบีทีวี (ช่อง7) มูลค่าทรัพย์สินรวม 335 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 21 นางนันทา ชินธรรมมิตร เจ้าของกิจการน้ำตาลขอนแก่น มูลค่าทรัพย์สินรวม 330 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 22 นายประเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของกิจการบางกอกแอร์เวยส์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 245 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 23 คุณหญิงประภา และนายวิทย์ วิริยะประไพกิจ ผู้บริหาร สหวิริยา สตีล อินดัสตรี้ มูลค่าทรัพย์สินรวม 210 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 24 นายนิธิ โอสถานุเคราะห์ ได้รับตกทอดหุ้นบริษัท โอสถสภามา 25% มีเงินลงทุนอยู่ในไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และทำงานอยู่กับเมอร์ริลล์ ลินช์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 200 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 25 นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง อิตาเลียน-ไทย มูลค่าทรัพย์สินรวม 195 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 26 นายวิชัย รักศรีอักษร ผู้ก่อตั้งบริษัท คิงพาวเวอร์ ดำเนินกิจการร้านค้าปลอดภาษี มูลค่าทรัพย์สินรวม 190 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 27 นายเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าของกิจการสยาม ไวเนอรี่ ประธานบริษัทเรดบุล อังกฤษ และมีหุ้นอยู่ในบริษัท กระทิงแดง 2% มูลค่าทรัพย์สินรวม 185 ล้านดอลลาร์ อันดับ 

          อันดับ 28 นายเกษม ณรงค์เดช และครอบครัว ประธานกลุ่มบริษัท เคพีเอ็น ที่มีบริษัทอยู่ในเครือมากกว่า 24 บริษัท มูลค่าทรัพย์สินรวม 180 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 29 นายเอนก สิทธิประศาสน์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในกิจการบิ๊กซี ซุปเปอร์มาร์เก็ต รองประธาน เซ็นทรัลพัฒนา กิจการอสังหาริมทรัพย์ในเครือ "จิราธิวัฒน์" มูลค่าทรัพย์สินรวม 177 ล้านดอลลาร์ 

          อันดับ 30 นายเพชร และรัตน์ โอสถานุเคราะห์ มีหุ้นอยู่ในโอสถสภาคนละ 20 เปอร์เซ็นต์ รายหลังดำรงตำแหน่ง ซีอีโอของบริษัทอีกด้วย มูลค่าทรัพย์สินรวม 175 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 31 พรดี ลี้อิสระนุกูล สืบทอดกิจการในเครือกลุ่มบริษัทสิทธิผลจาก วิทยาผู้เป็นสามี มีหุ้นอยู่ในสิทธิผลมอเตอร์,ไทย สแตนเลย์ อีเลคทริค และบริษัทร่วมทุน อินูเอะ รับเบอร์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 170 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 32 วิชา พูลวรลักษ์ เจ้าของกิจการ เมเจอร์ ซีนีเพลกซ์ เครือข่ายธุรกิจโรงภาพยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มูลค่าทรัพย์สินรวม 165 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 33 นิจพร สรณจิต ผู้ถิอหุ้นใหญ่ในอิตาเลียน-ไทย พี่สาวของเปรมชัย กรรณสูต เป็นประธานโรงแรมโอเรียนเต็ล และมีหุ้นส่วนตัวอยู่ในเครือโรงแรมอมารี มูลค่าทรัพย์สินรวม 160ล้านดอลลาร์
วิกรม กรมดิษฐ์


          อันดับ 34 วิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าของกิจการนิคมอุตสาหกรรม อมตนคร มูลค่าทรัพย์สินรวม 145 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 35 พรเทพ พรประภา และครอบครัว เจ้าของกิจการสยามกลการ มีหุ้นอยู่ใน เอพีฮอนด้า และเอสพี ซูซูกิ มูลค่าทรัพย์สินรวม 140 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 36 ไกรสร ชาญสิริ ประธานและผู้ก่อตั้ง ไทย ยูเนียน ฟรอซเซน กิจการทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มูลค่าทรัพย์สินรวม 115 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 37 ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกลุ่มจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มูลค่าทรัพย์สินรวม 110 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 38 ปลิว ตรีวิศวเวทย์ เจ้าของกิจการบริษัทก่อสร้าง ช.การช่าง มูลค่าทรัพย์สินรวม 100 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 39 สุเมธ ตันธุวณิช ผู้ก่อตั้ง รีเจอนัล คอนเทนเนอร์ ไลน์ กิจการเดินเรือ มูลค่าทรัพย์สินรวม 85 ล้านดอลลาร์

          อันดับ 40 มาลิณี กิตะพาณิช และครอบครัว สืบทอดสมบูรณ์ แอดวานซ์ เทคโนโลยี บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากผู้เป็นสามี มูลค่าทรัพย์สินรวม 65 ล้านดอลลาร์
............................................................................................................................................................
  • ลิงก์สีเขียวมีเนื้อหานิดเดียว

  • อันดับชื่อผลิตภัณฑ์เงิน
    (ล้านบาท)
    ประเภทธุรกิจ
    1เฉลียว อยู่วิทยากระทิงแดง130,000เครื่องดื่ม
    2ธนินท์ เจียรวนนท์ซีพี100,000อาหาร
    3ครอบครัว จิราธิวัฒน์เซ็นทรัล97,000ห้างสรรพสินค้า
    4เจริญ สิริวัฒนภักดีเบียร์ช้าง94,000เครื่องดื่ม
    5กฤตย์ รัตนรักษ์ช่อง 740,000สื่อ
    6จำนงค์ ภิรมย์ภักดีเบียร์สิงห์33,000เครื่องดื่ม
    7ประณีตศิลป์ วัชรพลไทยรัฐ32,000สื่อ
    8อิสระ ว่องกุศลกิจน้ำตาลมิตรผล30,000อาหาร
    9วิชัย มาลีนนท์ช่อง 322,000สื่อ
    10อนันต์ อัศวโภคินแลนด์แอนด์เฮาส์17,000อสังหาริมทรัพย์
    11วาณิช ไชยวรรณไทยประกันชีวิต16,000ประกัน
    12สุรางค์ เปรมปรีดิ์ช่อง 715,000สื่อ
    13ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์พฤกษา14,000อสังหาริมทรัพย์
    14สมพร จึงรุ่งเรืองกิจไทยซัมมิท14,000ยานยนต์
    15บุญชัย เบญจรงคกุลดีแทค14,000สื่อสาร
    16ทักษิณ ชินวัตรเอไอเอส13,000สื่อสาร
    17ประยุทธ มหากิจศิริเนสกาแฟ12,000อาหาร
    18นันทา ชินธรรมมิตร์น้ำตาลขอนแก่น12,000อาหาร
    19Aloke Lohiaอินโดเพ็ต12,000เคมี
    20วิลเลียม อี ไฮเนคกี้ไมเนอร์กรุ๊ป12,000โรงแรม
    21Nishita ShahPrecious Shipping9,000ขนส่ง
    22สรรเสริญ จุฬางกูรซัมมิท9,000ยานยนต์
    23ประภา วิริยประไพกิจเหล็กสหวิริยา7,000อุตสาหกรรมหนัก
    24ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถปราสาททองโอสถ6,000ยา
    25เฉลิม อยู่วิทยากระทิงแดง6,000เครื่องดื่ม
    26พรเทพ พรประภาสยามกลการ6,000ยานยนต์
    27วิชัย รักศรีอักษรคิงเพาเวอร์6,000ห้างสรรพสินค้า
    28ไกรสร ชาญสิริ ไทย ยูเนียน ฟรอซเซน6,000อาหาร
    29นิธิ โอสถานุเคราะห์เอ็ม 1506,000เครื่องดื่ม
    30วรวิทย์ วีรบวรพงษ์สยามแก๊ส6,000อุปโภคบริโภค
    31เพชร และ รัตน์ โอสถานุเคราะห์เอ็ม 1505,000เครื่องดื่ม
    32เปรมชัย กรรณสูตอิตาเลียนไทย5,000อสังหาริมทรัพย์
    33อเนก สิทธิประศาสน์บิ๊กซี5,000ห้างสรรพสินค้า
    34นิจพร จรณะจิตต์อิตาเลียนไทย5,000อสังหาริมทรัพย์
    35วิโรจน์ ธนาลงกรณ์ซาบีน่า4,000เสื้อผ้า
    36พงษ์ศักดิ์ วิทยากรโรงพยาบาลกรุงเทพ4,000โรงพยาบาล
    37ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรมแกรมมี่4,000สื่อ
    38พรดี ลี้อิสสระนุกุลสิทธิผล4,000ยานยนต์
    39ปลิว ตรีวิศวเวทย์ช.การช่าง4,000อสังหาริมทรัพย์
    40วิชา พูลวรลักษณ์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์3,000บันเทิง
    เห็นอันดับแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าอยู่เมืองไทยค้าขายอะไรดีคงตอบกันได้เลยทันทีว่า ขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ไม่ก็ทำพวกสื่อบันเทิง รับรองรวยแน่ๆ
         ปี 2555
    เฉลียว อยู่วิทยา
    อายุ 76 ปี กลับมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของไทยอีกครั้งหนึ่งหลังจากยอดจำหน่ายกระทิงแดง เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่นายเฉลียว ร่วมกับนายดีทริช มาเตสชิทซ์ นักธุรกิจออสเตรียเริ่มผลิตขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ยอดขายเพิ่มจากปี 2547-2550 ถึงเกือบเท่าตัวเป็น 4,200 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 136,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 500 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    2เจริญ สิริวัฒนภักดี
    ผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เจ้าของธุรกิจวิสกี้และเบียร์ (เหล้าแม่โขง , เบียร์ช้าง ฯลฯ ) ที่เพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อปี 2549 ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมพลาซ่า แอทธินี่ และไอเอ็มเอ็ม อีกด้วย มูลค่าทรัพย์สินรวม 3,900 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    3ครอบครัว “จิราธิวัฒน์”
    มีกิจการหลายอย่างตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก (ห้างเซ็นทรัล) ?,อสังหาริมทรัพย์ ,โรงแรม เป็นต้น มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 2,800 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    4ธนินท์ เจียรวนนท์
    ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กิจการเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี.) อายุ 69 ปี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ์ 2,000 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    5กฤตย์ รัตนรักษ์
    จัดเป็นเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มีบุคลิกเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ชอบเป็นข่าว ไม่เคยแถลงข่าว จะเปิดเผยตัวต่อสาธารณะในวันประชุมผู้ถือหุ้นบ้าง “กฤตย์” จบการศึกษาระดับปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์น นิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และเริ่มประธานและซีอีโอของบริษัท บางกอก บรอดคาสติ้ง แอนด์ ทีวี (บีบีทีวี) และครอบครัว ทรัพย์สินรวมถึงหุ้นในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และปูนซิเมนต์นครหลวง มูลค่าทรัพย์สินรวม 1,000 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    6ประณีตศิลป์ วัชรพล
    เจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มูลค่าทรัพย์สินรวม 940 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    7วิชัย มาลีนนท์
    บีอีซีเวิร์ลด์ และไทยทีวีสีช่อง 3 มูลค่าทรัพย์สินรวม 880 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    8จำนงค์ ภิรมย์ภักดี
    ประธานบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ (เบียร์สิงห์) และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินรวม 820 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    9สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ
    ประธานเครือบริษัท ไทยซัมมิต ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ถือหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ในเนชั่น มัลติมีเดียมูลค่าทรัพย์สินรวม 580 ล้านดอลลาร์
     
     
     
    10อนันต์ อัศวโภคิน
    ก่อตั้งบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮาส์ มูลค่าทรัพย์สินรวม 525 ล้านดอลลาร์